8 วิธีสร้างแรงจูงใจในการฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้าน

11763 VIEWS | 10 MINS READ Wednesday 26 / 12 / 2018


เบื่อ เหนื่อย ท้อ เครียด เซ็ง ใคร ๆ ก็เคยเป็นครับ อาการเหล่านี้ที่คอยวนเวียน ขัดขวางชีวิตของคุณให้ไม่สามารถทำอะไรจนสำเร็จได้ แต่คุณก็รู้ว่ามีคนอีกหลายคนบนโลกนี้ที่มีความมุ่งมั่นล้นเหลือ ทำอะไรก็ทำจนสำเร็จ เวลาฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถตั้งมั่น ทำทุกวันจนเก่งได้ ดังนั้นคุณถึงได้รู้สึกโมโหตัวเองขึ้นมานิดๆ ว่าทำไมฉันกลับทำสิ่งที่ตั้งใจได้ไม่นานเลย ...ดังนั้นเราจะมาเล่าให้ฟังครับ ว่าความมุ่งมั่นหรือแรงจูงใจนั้น เราจะสร้างมันขึ้นในตัวเองได้อย่างไร

 

วิธีแรก มองหาสิ่งที่ผิดปกติในตัวเอง

 

ก่อนจะเริ่มพุ่งไปที่การลงมือทำ เราอาจลองมาหาสาเหตุกันก่อนว่าทำไมคุณถึงไม่มีแรงกายแรงใจ ที่จะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษสักทีนะ? จำเป็นต้องเรียนน่ะก็รู้ว่าจำเป็น แต่ใจมันไม่สู้เอาเสียเลยนี่สิ เราอยากให้คุณมองหาสาเหตุเหล่านั้น บางทีอาจเป็นเพราะสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้า บางครั้งคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นใจในตัวเอง หรือคุณอาจอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต

 

หากเป็นสาเหตุข้างต้น เราก็จะได้ปรับปรุงสภาพกาย สภาพใจ หรือจัดการให้ทุกอย่างที่รบกวนใจหายไปเสียก่อนได้ และบางที สาเหตุที่เป็นไปได้อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ “คุณไม่ต้องการทำมันตั้งแต่แรก” ก็ต้องมาถามกันว่าทำไม ให้คุณหยิบกระดาษมาแผ่นนึง เขียนลงไปว่า ทำไมคุณถึงรู้สึกไม่ดีที่ตนเองต้องฝึกภาษาอังกฤษ อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ อะไรที่เป็นตัวบั่นทอน แล้วลองคิดในมุมใหม่เกี่ยวกับมัน มีคนมากมายที่พบเจอสิ่งเดียวกับคุณ มีคนมากมายที่ล้มเลิกการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกับคุณ แต่มีอีกหลายคนที่ยังเดินหน้าต่อไป “ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย” แต่คุณเอง “ใช่” คนๆนั้นหรือเปล่า คนที่แตกต่างจากคนอื่น คนที่ตั้งใจทำอะไรก็จะมุ่งมั่นทำให้เสร็จ เราไม่อยากเป็นคนที่ทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ หรือเปล่า หากคุณรู้สึกว่ามันยาก ลองบอกกับตัวเองว่า “คนแบบฉันนี่แหละที่จะทำเรื่องยาก ๆ นี้ให้ได้ คอยดู”

 

วิธีที่สอง ลงมือทำทันที โดยไม่ต้องตั้งเงื่อนไข

 

“ฉันจะไม่ขยันทำงานจนกว่า...” “ชีวิตฉันจะดีขึ้นถ้า...” “ฉันจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษก็ต่อเมื่อ...” จากสามประโยคที่ว่าทำให้หลาย ๆ คนบนโลกนี้ไม่เคยได้ฤกษ์ลงมือทำอะไรสักที เชื่อไหมว่าสิ่งที่ทำให้คนล้มเหลวมากที่สุดคือการไม่ยอมเริ่มต้นลงมือทำ เราขอท้าให้คุณไปถามคนที่ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองหลาย ๆ คนได้เลย ทุกคนย่อมเริ่มต้นด้วยการทำทันที สิ่งที่ต้องทำก็ต้องทำ ไม่ตั้งข้อแม้ ไม่มีแต่หรือเดี๋ยวให้เสียเวลา

 

ลองสังเกตตัวเองดู เมื่อไหร่ที่เราคิดว่า แต่ หรือ เดี๋ยว ให้ใช้ความคิดเหล่านี้เป็นสัญญาณให้คุณพุ่งตัวไปฝึกภาษาอังกฤษทันที ทำให้ได้ครบ 20 นาที แล้วคุณจะพบว่าความรู้สึกขี้เกียจ หรืออยากทำอย่างอื่น มันได้เบาบางลง คุณมีสมาธิมากขึ้นและสามารถฝึกภาษาอังกฤษต่อไปได้ ลองทำตามดูนะครับ

 

วิธีที่สาม ย่อยเป้าหมายใหญ่ ให้เป็นเป้าหมายเล็กหลายๆอัน

 

หยิบกระดาษและปากกา เขียนทุกสิ่งที่คุณต้องการในอนาคตออกมา ชีวิตนี้คุณต้องการอะไร? ถ้าอยากได้มัน ภายใน 3 ปีนี้ต้องไปถึงจุดไหน ปีนี้ล่ะ แล้วเดือนนี้ต้องทำอะไรให้เป้าหมายของปีสำเร็จ เขียนออกมา และเขียนแผนการให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขีดฆ่าเป้าหมายที่ทำสำเร็จ กลับมาติดตามวัดผลทุก ๆ เดือนว่าคุณฝึกภาษาอังกฤษไปถึงไหนแล้ว การทำเป้าหมายเล็ก ๆ ให้สำเร็จ จะช่วยให้พลังใจของคุณเติบโต คุณจะเชื่อมั่นมากขึ้นว่าตัวเองคือผู้สำเร็จ ตัวเองทำได้ และพลังใจที่เติบโตขึ้นนี้จะทำให้คุณบรรลุเป้าหมายใหญ่ ๆ ในอนาคตได้ง่ายขึ้น!

  • แทนที่จะตั้งเป้าลดน้ำหนัก 10 กิโลฯ ให้เปลี่ยนเป็นลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 1 กิโลฯ แต่ทำให้ได้ 10 สัปดาห์

  • แทนที่จะตั้งเป้าว่าฉันต้องฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งจนคุยกับฝรั่งได้สบายๆ ให้เปลี่ยนเป็น สัปดาห์นี้ฉันจะเรียนรู้บทสนทนาเกี่ยวกับการสั่งอาหารและเลือกไวน์ในร้านอาหารอิตาเลียน

วิธีที่สี่ กล่อมตัวเองด้วยเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ

 

การได้ยินเรื่องราวความสำเร็จของคนอื่น ช่วยดึงดูดคุณให้คิด หรือมีพลังใจในแบบเดียวกันได้ เรื่องนี้เป็นจิตวิทยา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ชอบวิ่งมาราธอน ในไม่ช้าคุณก็จะเริ่มทำความเข้าใจ หรือรู้สึกว่าตัวคุณเอง ก็สามารถไปวิ่งมาราธอนและสนุกกับมันได้เป็นประจำเช่นกัน หรือถ้าทุกคนเอาแต่พูดเรื่องการกินอาหารคลีน คุณเองก็จะรู้สึกว่าบางทีลองกินอาหารคลีนสัปดาห์ละครั้งไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร

 

จงหาแบบอย่างหรือบุคคลตัวอย่างโดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จ หรือบุคคลที่เราอยากจะมีชีวิตแบบเขา ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง ศึกษาว่าเขามีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จ ปรับมาให้เป็นแนวทางของเรา กล่อมเกลาสมองของคุณไปด้วยสิ่งเหล่านี้ ไม่ช้าคุณจะรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ไม่ได้ต้องใช้ความพยายามทำใจมากเช่นเมื่อก่อนแล้ว

 

วิธีที่ห้า ตั้งรางวัลล่อใจ

 

วิธีนี้อาจเหมาะกับคนที่มีงบสักหน่อย แต่ขอบอกเลยว่าได้ผล เขียนลิสต์สิ่งของหรือประสบการณ์ที่คุณอยากได้ แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เช่น รองเท้าผ้าใบเท่ๆ เกมออกใหม่ในสตีม ลิปสติกหรือรองพื้นตัวใหม่น่าโดน หรือตั๋วชมละครเวทีสักเรื่อง เลือกที่ราคาไม่ต้องสูงมาก แต่มันทำให้คุณมีความสุข และเมื่อคุณสามารถฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ครบสัปดาห์แรก ก็ออกไปช้อปปิ้งของในลิสต์สัก 1 รายการ และตั้งเป้าหมายต่อไป จากหนึ่งสัปดาห์มาลองดูว่าคุณทำได้ครบ 15 วันไหม ครบ 1 เดือนได้ไหม ยืดระยะเวลาออกไปพร้อม ๆ กับรายการของที่น่าสนใจขึ้น ทำให้การฝึกภาษาอังกฤษของคุณเป็นเหมือนการเล่นเกมได้เลย

 

วิธีที่หก นึกภาพในใจให้สมจริงที่สุด

 

แบ่งเวลาวันละไม่กี่นาทีนั่งลงแล้วนึกภาพว่าคุณกำลังบรรลุเป้าหมาย ใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของคุณ. คุณมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรสและสัมผัสอะไรบ้าง? คุณรู้สึกอย่างไร? คำไหนที่คุณสามารถใช้เพื่อบรรยายชีวิตใหม่ของคุณได้ ลองลงลึกรายละเอียดให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณยืนอยู่ตรงจุดไหน? คุณกำลังทำอะไร? คุณสวมใส่ชุดอะไร? คุณดูเป็นยังไง? ใครอยู่กับคุณ? ทำครั้งเดียวอาจดูตลก แต่ให้ลองทำมันสักหนึ่งสัปดาห์ คุณจะรู้สึกเลยว่าเป้าหมายการพูดภาษาอังกฤษได้ของคุณ มันเขยิบเข้ามาใกล้ขึ้นในความรู้สึก เหมือนเป็นเรื่องง่าย ๆ ที่เดี๋ยวจะได้มาในเร็ว ๆ นี้เลย

 

คุณอาจพิมพ์เป้าหมายออกมาแปะไว้ พิมพ์เป้าหมายตัวโต ๆ ใส่กระดาษ (ใช้ถ้อยคำสั้นและกระชับ) แล้วแปะทิ้งไว้ที่บ้าน ที่ทำงาน บนผนังหรือตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า หน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช้รูปภาพที่สื่อถึงเป้าหมาย เป็นตัวกระตุ้นเตือน ก็ช่วยได้มากเลยทีเดียว

 

วิธีที่เจ็ด ตื่นตัวอยู่เสมอ

 

พูดถึงเป้าหมายของคุณ เล่าให้คนอื่นฟัง หมกมุ่นกับมัน คอยดูว่าจะทำอะไรได้อีกที่จะช่วยให้คุณฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองได้ดีขึ้น ทดสอบว่าคุณเก่งขึ้นไหม คุณต้องทำให้ตัวเองรู้สึกว่าคุณกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าทุก ๆ วัน

 

ความรู้สึกที่ว่านี้จะช่วยหล่อเลี้ยงความกระตือรือร้นในการฝึกฝนของคุณ มองหาข้อดีหรือประโยชน์อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง เช่น อยู่ ๆ ก็ดูหนังภาษาอังกฤษเข้าใจมากขึ้นโดยไม่ต้องอ่านซับไตเติ้ล หรือความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด คอยย้ำเตือน กระตุ้นตัวเองให้ไปต่อตลอดเวลา

 

วิธีที่แปด ให้คนนอกจับตาดูคุณ

ประกาศให้โลกรู้ว่า “เฮ้! ฉันกำลังฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอยู่นะ” ทำให้คุณมีแรงกดดันโดยอัตโนมัติที่จะรักษาคำพูดของคุณ อาจโพสลงเฟซบุ๊ค เขียนลงในบล็อก หรือทวีตโพล่งสิ่งที่คุณกำลังพยายามทำอยู่ บางทีคุณอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นในขณะที่คุณกำลังทำสิ่งนั้นอยู่! และถ้าหากเพื่อนของคุณมีเป้าหมายในการฝึกภาษาอังกฤษเหมือนกัน ลองพูดคุยกับเขา พนันกันว่าใครทำได้ก่อนจะได้รางวัล รวมถึงเป็นกำลังใจให้กันในยามท้อแท้ การที่คุณมีคนที่เข้าใจความลำบากตรากตรำขอคุณ คุณจะรู้สึกว่าน้ำหนักบนสองบ่าของคุณนั้นลดลงไปมาก

 

สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่ต้องการฝึกภาษาอังกฤษให้เก่งด้วยตัวเอง เราอยากให้คุณตระหนักไว้ว่าอาการท้อแท้ หมดหวัง จะไม่มีทางอยู่กับคุณตลอดไป พยายามรีบหาทางนำอาการเหล่านั้นออกไปจากตัวคุณให้เร็วที่สุด และลงมือทำโดยไม่ต้องคิดวนเวียนกับความท้อแท้ เพียงเท่านี้เป้าหมายการเก่งภาษาอังกฤษก็จะเป็นจริงได้ไม่ยากครับ

 

สำหรับใครที่มองหาที่เรียนภาษาอังกฤษที่จะช่วยให้คุณสนทนาภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น พร้อมช่วยวางแผนในการเรียน มีที่ปรึกษาให้พูดคุยถึงปัญหาและแนะนำหนทางแก้ไข ที่ โกลบิช สถาบันฝึกฝนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวกับครูชาวต่างชาติ จะเป็นคำตอบสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาในการสื่อสาร และต้องการสนทนาได้ดียิ่งขึ้น

 

เพราะเราเข้าใจปัญหาของวัยทำงาน หลักสูตรของเราถูกคิดค้นขึ้นเพื่อวัยทำงานที่ต้องการฝึกทักษะการสื่อสารโดยเฉพาะ ให้คุณได้เรียนสนทนาแบบตัวต่อตัวกับคุณครูชาวต่างชาติ ซึ่งจะช่วยแก้ไขเมื่อพูดผิด สร้างความมั่นใจ เพิ่มพื้นฐานด้านคำศัพท์และไวยากรณ์ผ่านการใช้งานจริง ไม่ใช่การท่องจำ

 

ฝึกการโต้ตอบโดยคิดเป็นภาษาอังกฤษทันที ไม่ต้องแปลกลับเป็นภาษาไทย และเป็นการเรียนสด ผ่านวิดิโอคอล ที่คุณเรียนที่ไหนก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่มีคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน พร้อมเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

 

*** อยากทราบข้อม

ค้นหาคอร์สที่เหมาะกับคุณ
พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี


   หรือ    โทรเลย 02-026-6683