พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
104927 VIEWS | 5 MINS READ Wednesday 24 / 01 / 2018
ถ้าจะให้พูดถึงวิธีการฝึกภาษาอังกฤษนั้นมีเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการท่องคำศัพท์, พูดคุยกับชาวต่างชาติ หรือการอ่านหนังสือ แต่จะมีสักกี่วิธีกันที่ช่วยให้การฝึกภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุก และได้อรรถรสมากไปกว่าการฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนังหรือซีรีส์เรื่องโปรดล่ะ?
เวลาที่เราเลือก "ดูหนังเป็นภาษาอังกฤษ" แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่ดูคงมีอยู่ไม่กี่เหตุผลหรอก ถ้าไม่เพราะอยากได้อรรถรสที่สมจริง ก็อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบฟังพากย์เสียงไทยบ้างแหละ หรือบางคนก็ใช้เพื่อฝึกภาษาอังกฤษนั่นเอง และในวันนี้ Globish ก็มี 8 เทคนิค ที่จะช่วยในการฝึกภาษาอังกฤษจากหนังหรือซีรีส์ ให้คุณเก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ...เราจะมาเปลี่ยนการดูหนังเรื่องโปรดให้เกิดประโยชน์มากขึ้นกันเถอะ
1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
สิ่งที่ควรเตรียมก่อนจะเริ่มต้นฝึกอย่างจริงจังคือ การตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองในการฝึกครั้งนี้ว่าฝึกไปเพื่ออะไร หรือสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง เช่น ฝึกครั้งนี้เพื่อใช้สื่อสารกับเจ้านายชาวต่างชาติ หรือใช้พรีเซนต์งานเป็นภาษาอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยเป็นแนวทางในการเลือกประเภทของหนังหรือซีรีส์ที่เราจะดูนั่นเองครับ
2. เตรียมอุปกรณ์เครื่องเขียนให้พร้อม
เมื่อใจพร้อม อุปกรณ์ก็ต้องพร้อมเช่นกัน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ สมุด ปากกา ไว้ใช้จดคำศัพท์, ประโยค, วลีต่าง ๆ และสิ่งสำคัญที่ควรทำก่อนจะฝึกภาษษอังกฤษด้วยการดูหนังก็คือ วางมือถือลง ตัดขาดจากโลกโซเชียลสักพักเพื่อให้เกิดสมาธิในระหว่างรับชมหนัง เพื่อให้ไม่ต้องถูกรบกวนจากเสียง หรือการสั่นของโทรศัพท์
3. วางแผนให้ชัดเจน
เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ของการฝึกภาษาอังกฤษชัดเจนขึ้น ลองนำปฏิทินมากางออก และลองวางแผนดูว่าตลอดการฝึกนั้น คุณจะใช้เวลาเท่าไร ความถี่ในการฝึกแต่ละสัปดาห์เป็นอย่างไร โดยเวลาที่แนะนำคือ อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ และใช้เวลาฝึกต่อการฝึก ประมาณ 20 - 40 นาทีต่อวัน ซึ่งทั้งหมดสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญที่คุณต้องไม่ลืมคือการฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนังนั้น คุณต้องทำเป็นประจำ เพราะถ้าทำบ้างไม่ทำบ้างมันก็แทบจะไม่เห็นผลลัพธ์หรือเกิดความเปลี่ยนแปลงเลย
4. เลือกประเภทหนังหรือซีรี่ส์ที่เข้ากับเป้าหมายของคุณ
สำหรับ Genres หรือประเภทหนังที่แนะนำในช่วงแรกคือ หนังหรือซีรีส์สมัยใหม่, วัยรุ่น, Comedy เพราะเนื้อหาค่อนข้างเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ดูสนุก ดูเพลิน แต่ถ้าเลเวลของคุณสูงมากพอ ควรเน้นไปที่ซีรีส์ที่มีการพูดคุยกันเยอะ ๆ หรือสายอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคุณ เช่นซีรีส์เกี่ยวกับธุรกิจ การสืบสวน วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม หรือการแพทย์ เพราะมีคำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษที่คุณต้องใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานค่อนข้างเยอะ ทำให้คุณเกิดความคุ้นเคย ประโยคติดหู สามารถนำไปสื่อสารได้ในชีวิตจริง
5. เปิด Subtitle
ขั้นตอนสำหรับผู้เริ่มต้น กับการเปิด Subtitle เพื่อช่วยให้ดูรู้เรื่อง เข้าใจในเนื้อเรื่องที่ดู ซึ่งวิธีที่แนะนำคือ การดูอย่างน้อย 3 ครั้ง โดยแบ่งออกได้ดังนี้
ครั้งที่ 1 เพื่อช่วยในเรื่องการฟังและให้เข้าใจในเรื่องราวให้เปิด Subtitle เป็นภาษาไทยเพื่อให้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดก่อน และยังสนุกไปกับหนังหรือซีรีส์ที่ดูอยู่ได้
ครั้งที่ 2 เปลี่ยน Subtitle เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเรียนรู้คำศัพท์, รูปประโยค และช่วยเรื่องการฟังได้มากขึ้น
ครั้งที่ 3 รอบสุดท้ายนี้ฝึกฟังภาษาอังกฤษ, ปิด Subtitle และฝึกออกเสียงตาม เพื่อทบทวนให้จำประโยคและคำศัพท์ได้
แต่หากไม่มีเวลาดูหลายครั้ง หรือกลัวจะเบื่อเรื่องที่ดูอยู่ล่ะก็ แนะนำให้เปิด Subtitle ภาษาอังกฤษ หรือไม่เปิด Subtitle เลย และทบทวนคำศัพท์ เรื่องราวที่ได้ในภายหลัง
6. ใช้ Dictionary
เชื่อว่าทุกคนเคยผ่านกันมาแน่นอน กับการใช้ Dictionary ในช่วยแปลหรือการค้นหาความหมายของคำศัพท์ แต่ไม่แนะนำให้ดูไป และเดี๋ยวกด play เดี๋ยวกด pause เพราะนอกจากจะทำให้อรรถรสของเรื่องที่ดูเสียแล้ว ยังทำให้การฝึกครั้งนี้เครียดไปกว่าเดิม แนะนำให้จดคำศัพท์ หรือประโยคที่สงสัยไว้ แล้วค่อยนำมาทบทวนภายหลัง เพราะวิธีนี้ยังช่วยให้เราได้สมุดบันทึกคำศัพท์อีกด้วย
7. ฝึกฝนอยู่เสมอ
อยากมีกล้ามยังต้องออกกำลังกาย ไม่ต่างกันถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษก็ต้องหมั่นฝึกฝน พยายามอย่าให้ความขี้เกียจเป็นกำแพงปิดกั้นเราจากการพัฒนาตัวเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่างใจร้อน รีบเร่งมากจนเกินไป เพราะความเครียด ความกดดัน อาจทำให้ตัวเองเบื่อจนเลิกฝึกฝนไปเสียก่อน
8. ให้กำลังใจตัวเอง
อีกหนึ่งข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ คือการให้คะแนนตัวเอง ประเมินตัวเอง และให้กำลังใจตัวเองบ้าง เหนื่อยก็พัก หนักไปก็ผ่อนลงบ้าง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากไปฝึกกันแล้วใช่ไหมครับ ? ถ้าเลือกไม่ถูกว่าจะดูเรื่องอะไรดีวันนี้ Globish ขอแนะนำแล้วกันนะครับ กับหนังซีรีส์ทั้ง 7 เรื่องที่จะช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ ไวยากรณ์ และการออกเสียง โดยแบ่งตามลำดับตั้งแต่ง่ายไปยาก
Beginner - Toy Story, Forrest Gump
Intermediate - Harry Potter, Once Upon a Time
Advanced - Game of Thrones, Suits, Westworld
ถ้าใครอยากได้สำเนียงอังกฤษแบบต้นตำรับ และการแสดงที่ยอดเยี่ยม กับเนื้อเรื่องตื่นเต้นชวนติดตาม มีมุกตลก แถมมีคำศัพท์ระดับสูง ๆ ที่น่าสนใจ Globish ขอแนะนำซีรีส์ Sherlock Holmes แต่ขอบอกเลยว่ายากมากนะ เพราะตัวละครพูดกันค่อนข้างไว (นึกว่าฟังเพลง Rap)
ถ้าทุกอย่างพร้อมแล้ว อย่ามัวรอให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เริ่มฝึกภาษาอังกฤษด้วยการดูหนังตั้งแต่วันนี้กันเถอะครับ ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด เพียงเปลี่ยนความคิด ลดความกลัว แล้วลองตั้งใจใช้เวลากับการฝึกอย่างมีเป้าหมาย พร้อมกับการให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ รับรองว่ารางวัลตอบแทนจากการพัฒนาตัวเองจะไม่สูญเปล่าแน่นอน และถ้าฟังเก่งแล้ว แต่อยากพูดให้เก่งมากขึ้น ลองเรียนที่ Globish ดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าการเรียนสนทนาแค่ 25 นาทีต่อวันเปลี่ยนคุณให้เก่งภาษาอังกฤษได้ จนลืมการอ่าน Subtitle ภาษาอังกฤษไปเลย!
สนใจพัฒนาภาษาอังกฤษ เน้นการฟังและการพูด สามารถลงชื่อเพื่อขอคำแนะนำคอร์สฝึกพูดที่เหมาะกับคุณได้ที่นี่ ลงทะเบียนรับคำแนะนำด้านภาษาอังกฤษสำหรับวัยทำงาน