ไม่มีคำว่าธรรมดา ในสายตานักการตลาดมืออาชีพ - พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้ธุรกิจรายย่อย

---------------------------------------

คุยกับ คุณปุ๊ก - พรทิพย์ พานิช
ที่ปรึกษาอิสระด้านการตลาด และกลยุทธ์องค์กร
ที่พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพื่อแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้ธุรกิจรายย่อยของไทย

ถ้าวาดภาพในหัวถึงคนที่ทำอาชีพคอนซัลท์ หลาย ๆ คนก็คงนึกถึงคนที่ดูภูมิฐาน ใส่สูท พูดจาฉลาดและมั่นใจ ไร้ที่ติไปหมด ซึ่งเรื่องราวในชีวิตจริงของคนที่ทำอาชีพคอนซัลท์เอง นอกจาก ‘แง่บวก’ ที่ฟังดูดีเหล่านั้น ยังแฝงไปด้วย ‘ความยาก’ ที่มากับบรรทัดฐานทางอาชีพที่คอนซัลท์จะต้อง ‘รู้’ และ ‘ทำได้ดี’ กว่าคนทั่วไป ซึ่งนอกจากเนื้องานแล้วมันยังรวมไปถึงแง่มุมอื่น ๆ ของชีวิตที่ต้องดูน่าเชื่อถือในทุกมิติเช่นกัน วันนี้เราจึงมาพูดคุยกับ คุณปุ๊ก - พรทิพย์ พานิช ที่ปรึกษาอิสระการตลาด และกลยุทธ์องค์กร นักธุรกิจหญิงเก่งผู้ต่อยอดธุรกิจ SMEs ไทย

งาน ‘ที่ปรึกษา’ คืออะไร?

‘มันคือประสบการณ์’ สำหรับพี่เองนะ… หน้าที่หลัก ๆ ของที่ปรึกษาทางการตลาดเลย มันคือการวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้กับบริษัทต่าง ๆ  ทำให้เขาขายได้ ทำให้เขามีกำไร โดยเราก็ใช้ประสบการณ์ที่เรามีกับสายธุรกิจนั้น ๆ ที่เราเคยได้เห็นโอกาส เข้าใจความเสี่ยงของมันมามากกว่า และเราให้คำปรึกษา เพื่อช่วยให้ธุรกิจที่มีอยู่นั้นได้ต่อยอดไอเดียของเขาไปได้ไกลขึ้น

ทำไมพี่ปุ๊กถึงมาเริ่มทำงานด้านที่ปรึกษา?

เริ่มตั้งแต่เรียนจบพี่ทำงานประจำ เป็นสายงานเกี่ยวกับการขาย การตลาดซะส่วนใหญ่จนวันหนึ่งพี่มีลูก ก็เลยอยากทำงานอะไรที่คล่องตัวเรื่องเวลามากขึ้นเพื่อที่จะสามารถดูแลลูกได้  ก็เลยเลือกที่จะลาออกจากงานประจำ และมองหาอาชีพอิสระ ก็เลยใช้ความเชี่ยวชาญ ความรู้ที่ตัวเองมีมาประกอบเป็นอาชีพ จนกลายมาเป็นอาชีพที่ปรึกษาการตลาดค่ะ

การตลาดสำคัญยังไงกับ SMEs

อย่างที่ทราบไป คือลูกค้าของพี่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าองค์กร SMEs เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เมื่อความอยู่รอดของธุรกิจไซส์ประมาณนี้มันขึ้นอยู่กับเรื่องของรายได้ เรื่องของกระแสเงินสดมากกว่าแง่มุมอื่น ๆ ดังนั้นถ้าความมุ่งหวังสูงสุดคือ ยอดขาย และกำไร การตลาดมันเลยเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ ในการทำให้ธุรกิจไปต่อได้ และเราเองก็คือคนที่คอยหาโอกาสที่น่าสนใจ หาวิธีบุกเบิก ทำตลาดให้กับเขา

ทำไมผู้บริหารถึงเชื่อคอนซัลท์

ถ้าถามพี่ พี่คิดว่าไม่มีใครเก่งไปทุกอย่าง ตัวผู้บริหารเองก็มีเรื่องร้อยแปดที่ต้องบริหาร ส่วนที่เขาต้องการคือทางออก ต้องการความรู้เพิ่มในการแก้ปัญหาตรงนี้ เขาก็ให้คนที่ตรงสายหรือมีความรู้มากกว่าอย่างเราเข้ามา เรากับเขาก็เก่งกันคนละอย่างแล้วเอาตรงนี้แหละมารวมกัน ธุรกิจเขาก็ไปได้ไกลขึ้น

ภาพลักษณ์ของ ‘คอนซัลท์’

ตามการแต่งตัวของพี่ในวันนี้เลย (หัวเราะ) คือเราก็ต้องมีความสุภาพ มีความน่าเชื่อถือ แต่พี่ทำในสายการตลาดเราก็มีสีสันได้ ไม่ใช่ว่าต้องน่าเบื่อหรือดูเครียดอะไร แต่ที่สำคัญคือการพูดจาของเราที่ต้องมีความเป็นมืออาชีพ เพราะพี่ทำงานกับคนเยอะ ก็มีทั้งไทย ทั้งต่างชาติค่ะ

พี่ปุ๊กต้องใช้ภาษาอังกฤษบ่อยไหม?

พี่ไม่ค่อยได้ใช้กับลูกค้าโดยตรง หลักๆ ที่ใช้ก็จะเป็นกับหุ้นส่วนของบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติค่ะ อันนี้คุยกันบ่อย

ภาษาอังกฤษกับความเป็นมืออาชีพ

มีผลต่อเนื่องกันค่ะ มันเป็นตัวสนับสนุน เสริมให้อย่างแรกคือทำให้พี่ดูน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า อย่างที่สองคือพี่สามารถทำงานกับชาวต่างชาติได้ แต่ปัญหาหลักๆ ในการทำงานของพี่คือการติดต่อ ประสานงานเป็นภาษาอังกฤษ ตัวเราไม่มั่นใจในการพูด เราคิดช้า เราใช้ศัพท์ที่มันธรรมดามาก ๆ แต่ในการทำงานเราต้องการความเป็นมืออาชีพ ต้องการใช้ศัพท์ที่ดูเป็นทางการ นี่แหละที่ยาก

คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ จริง ๆ แล้วมันเป็น

ใช่ค่ะ คือพูดแบบธรรมดา ๆ ก็ไม่ได้มีใครตำหนิพี่นะ เวลาที่พี่พูดผิด พูดช้า หรือคิดช้า แต่มันทำให้เกิดการทำงานที่ล่าช้าและลูกค้าก็รู้สึกเบื่อ รู้สึกว่าเราคิดช้า พูดช้า กว่าจะนำเสนองาน กว่าจะจบ ลูกค้าก็รู้สึกเชื่อมั่นในตัวพี่ลดน้อยลง

วันที่ฝรั่งต้องพูดไทยใส่เรา

ก็ด้วยความที่หุ้นส่วนพี่เขาเป็นชาวต่างชาติที่ทำงานในสายงานเดียวกัน แล้วก็คอยอัพเดทงานให้กันอยู่เรื่อย ๆ แต่เวลาเขาจะคุยกับเรา เขาจะต้องพยายามพูดภาษาไทยด้วยเพราะกลัวเราจะไม่เข้าใจ! เนี่ยแหละ มันทำให้พี่รู้สึกว่าพี่ไม่มืออาชีพเลย ขนาดฝรั่งเขายังเรียนรู้ที่จะพูดภาษาไทยเพื่อที่จะติดต่อสื่อสารกับเราเลย แล้วภาษาอังกฤษมันเป็นภาษาสากลนะ เราต่างหากที่ควรจะพูดภาษาอังกฤษกับเขาให้ได้สิ พี่คิดว่ามันต้อง Professional มากขึ้นทั้งในสายตาลูกค้าและหุ้นส่วน เลยอยากพัฒนาเรื่องการพูด การฟัง และรองลงมาคือการเขียน และถ้าเก่งขึ้น แทนที่พี่จะรับงานให้คำปรึกษาให้ได้เฉพาะบริษัทคนไทย พี่ก็อยากให้คำปรึกษาบริษัทต่างชาติได้ด้วย

สองเดือนที่ผ่านมากับการลงทุนในตัวเอง

หุ้นส่วนชมว่าภาษาอังกฤษดีขึ้นนะ ยูไปทำอะไรมา (หัวเราะ) พี่เรียนกับโกลบิชมาได้ 2 เดือนกว่า ๆ แล้ว ก็มีความมั่นใจมากขึ้น คิดเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดคำ เวลาจะคุยกับลูกค้า  เรียนรู้ศัพท์ที่เป็นทางการได้เยอะขึ้น แต่พี่ยังไม่ค่อยได้ใช้กับลูกค้าโดยตรง หลักๆ ที่ใช้ก็จะเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งตรงนี้ทำให้พี่ทำงานกันสะดวก รวดเร็วมากขึ้น และยิ่งช่วงโควิดนี่พี่เรียนทุกวันเลย แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ก็สัปดา์ละ 3 วัน แล้วก็ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในระบบเพื่อทบทวนบทเรียนอยู่ทุกวัน ในชีวิตประจำวัน ตอนขับรถไปทำงาน ก็ฟังข่าวภาษาอังกฤษ หรือยูทูปภาษาอังกฤษไปด้วย

ฟังออก พูดได้ กลายเป็นความสนุก

พี่รู้สึกว่าชินกับการฟังภาษาอังกฤษมากขึ้นนะ กิจวัตรประจำวันเราก็เปลี่ยนไป พอเราฟังได้ พูดได้ มันก็สนุกขึ้น เราก็อยากทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่เสมอ จากแต่ก่อนที่ใจเรามันปฏิเสธไปก่อนแล้ว เพราะเราฟังไม่รู้เรื่อง แต่หลังจากเรียน เจอโค้ชให้กำลังใจ เลยทำให้ความคิดต่อภาษาอังกฤษเปลี่ยนไป

ฝากสำหรับทุกคนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษ

ทุกอย่างเริ่มที่ ‘แรงบันดาลใจ’ ที่เราต้องหามันว่าคืออะไร ไม่ว่าจะพัฒนาทักษะอะไรก็ตาม แล้วเราจะมีพลังในการทำมัน อย่างที่พี่บอกไปว่าแรงบันดาลใจ หรือจุดหมายของพี่คือพี่อยากเป็นมืออาชีพในสายงานที่ทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการตลาด ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน แต่ลูกค้าทุกคนที่พี่เจอเค้าก็คาดหวังในความสามารถของพี่ คาดหวังว่าพี่จะต้องช่วยแก้ไขปัญหาให้เข้าได้ และแน่นอนเรื่องภาษาอังกฤษก็ไม่แปลกเลยที่ลูกค้าจะคาดหวัง มันสำคัญมากค่ะ ทั้งในวัยเรียน และวัยทำงาน แต่มันจะมาเห็นผลอย่างมากตอนทำงาน มันทำให้เราสามารถเลือกงานได้มากขึ้น ทำงานได้กว้างมากขึ้น และแน่นอนถ้าเราพูดในเรื่องค่าตอบแทน ถึงแม้ความรู้ในอาชีพจะเท่ากัน แต่เมื่อเราได้ภาษาอังกฤษเราก็มักจะมีโอกาสที่จะได้รับค่าตอบแทนสูงกว่าจริง ๆ

--- ที่ปรึกษาอิสระด้านการตลาด และกลยุทธ์องค์กร

คุณปุ๊ก - พรทิพย์ พานิช (45 ปี)

นักเรียนปัจจุบันโกลบิช

คอร์ส Business English ระดับ G5

------------------------------

สนใจพัฒนาภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน ล