ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเวลาทุกวินาทีนั้นมีค่า เพราะเราต่างมีเวลาเท่ากันหมดนั่นก็คือ 24 ชั่วโมงต่อวัน แต่หากเรานั้นสามารถจัดการเวลาที่เรามีให้สามารถใช้เวลาได้อย่างชาญฉลาด คุณค่าของเวลาก็ต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน 

โดยทั่วไปแล้วในทุก ๆ วันของเรามักจะมีเวลาของการใช้เวลาส่วนตัว เวลาทำงาน หรือเวลาทำกิจกรรมต่าง ๆ กันอยู่แล้ว แต่เราจะทำอย่างไรใหรู้สึกว่าในแต่ละวันเราสามารถจัดการและแบ่งเวลาได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งหลายคนอาจคิดว่าเราจัดเวลาไม่เป็นแต่ความจริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะสิ่งนี้ต้องควบคู่ไปกับการจัดระเบียบของงานที่ทำด้วยเช่นกัน 

คุณต้องเรียนรู้ที่จะกำหนดเวลาอย่างกระตือรือร้น ลดความซับซ้อนของกิจกรรมที่ทำทั้งงานและกิจกรรมส่วนตัว และที่สำคัญคุณต้องแยกแยะให้ได้ว่าสิ่งไหนสำคัญเป็นอันดับแรก และสิ่งไหนสำคัญรองลงมา รวมไปถึงต้องมีสมาธิในสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำในแต่ละวัน พยายามอย่าให้สิ่งอื่นมารบกวนหรือเบี่ยงเบนความสนใจคุณจนทำให้เวลานั้นผ่านไปอย่างไร้ความหมาย

การจัดตารางชีวิตประจำวันถือเป็นการวางแผนชีวิตและเวลาขอบคุณในแต่ละวันเพื่อให้สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบและเป็นเวลาที่แน่นอนอย่างชัดเจน โดยในแต่ละวันคุณสามารถจัดเป็นเวลางาน เวลาพัก เวลาส่วนตัว เวลาสำหรับทำกิจกรรมกับผู้อื่นได้จากการวางแผนว่าจะทำอะไร โดยการลิสช่วงเวลาเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะทำสิ่งนี้ในเวลานี้ได้ในสมุดหรือแม้แต่ในโทรศัพท์มือถือของคุณก็ได้เช่นกัน

และนอกจากการจัดตารางเวลาในชีวิตประจำวันเพื่อให้ทราบว่าในแต่ละเวลาเราจะทำอะไรบ้างแล้วนั้น หากคุณได้ลองกำหนดเป้าหมายให้กับตัวเองดูว่าภายในช่วงเวลาเท่านี้ คุณจะทำสิ่งนี้สำเร็จก็จะยิ่งช่วยให้คุณมองเห็นความสําคัญของเวลามากยิ่งขึ้น และเข้าใจการใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงช่วยให้คุณทราบว่าในแต่ละวันคุณจะทำอะไรเพื่อเป้าหมายที่คุณตั้งไว้นั่นเอง

การลำดับความสําคัญเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการแบ่งเวลาที่ดี เพราะคุณจะสามารถทำในสิ่งที่เร่งด่วน ทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำมาก่อน เพื่อให้คุณสามารถที่จะมีเวลาไปทำสิ่งอื่นใน

ลำดับถัดมาได้อย่างไม่ต้องมาคอยกังวลว่าบางสิ่งจะทำทันตามเวลาหรือไม่นั่นเอง

แน่นอนว่าบางทีคุณอาจจะเคยลองจัดลำดับความสําคัญแล้วแต่อาจล้มเหลวไปเพราะมีเรื่องมาจุกจิกจนลืมความสำคัญบางอย่างไป ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ของการจัดลำดับความสำคัญอาจเริ่มจากลำดับงานที่มีกำหนดวันส่งงานไวที่สุดมาก่อน หรืองานที่ต้องใช้ศักยภาพที่เยอะกว่างานอื่น รวมถึงพยายามอย่าทำงานสองงานในเวลาเดียวกัน เพราะจะทำให้คุณไม่สามารถโฟกัสกับงานใดงานหนึ่งได้จนความสําคัญนั้นหายไป

หลายครั้งเมื่อคุณตั้งใจจะทำบางสิ่ง ตั้งใจแบ่งเวลาของเวลางานและเวลาส่วนตัวออกจากกันแล้วกลับล้มเหลวเพราะบางครั้งคุณยังนำทั้งสองเรื่องมาผสมปนกัน นั่นทำให้เวลาที่คุณควรจะมีมากขึ้นกลับต้องมาสับสนว่าเราควรที่จะทำอะไรดีในแต่ละส่วนของเวลา

ซึ่งคุณต้องแบ่งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน คุณควรแบ่งเวลาเลยว่าช่วงเวลานี้ถึงเวลานี้คุณจะทำงาน ช่วงเวลานี้คุณจะใช้เวลาส่วนตัว ซึ่งการแบ่งเวลาออกจากกันจะช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่จริง ๆ และต้องอย่าให้สิ่งรบกวนภายนอกมาทำให้คุณไม่สามารถแยกได้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ในเวลานี้

หนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรจะพลาดไปจากการจัดการและแบ่งเวลาคือคุณควรจะทบทวนตารางของตัวเองเสมอเพื่อให้มั่นใจว่า คุณไม่ได้พลาดบางสิ่งไป และเพื่อไม่ให้คุณที่กำลังโฟกัสกับบางสิ่งมากเกินไปจนลืมอีกสิ่งไป ที่รู้ตัวอีกทีก็เลยเวลาที่คุณจะต้องทำสิ่งอื่นแล้ว ซึ่งอาจทำให้คุณต้องมาเสียเวลาเพิ่มมากขึ้น

คุณต้องพยายามอย่าทุ่มเทจนลืมไปว่าสิ่งอื่นก็สำคัญเช่นกัน ลองลดความเพอร์เฟคลงบ้างสักนิด แต่อย่าลดมากเกินไปจนสิ่งที่อยู่ออกมาแย่ และคอยทบทวนเวลาในตารางของตัวเองเสมอว่าคุณไม่ได้โฟกัสบางสิ่งมากจนลืมบางสิ่งไปนั่นเอง

แน่นอนว่าสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือคุณต้องไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณมีกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ค้างคามากเกินไป รวมไปถึงทำให้คุณติดนิสัยการจัดการที่ไม่เป็นระเบียบซึ่งอาจส่งผลไปถึงงานและเวลาส่วนตัวของคุณอีกด้วย

และอีกสิ่งคือเมื่อคุณจัดเวลาทำบางสิ่งแล้วนั้นหากสิ่งนั้นเริ่มจะหนักเกินไป คุณต้องจัดการตัวเองให้มีเวลาพักบ้าง เพราะการพักผ่อนเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น