พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
8948 VIEWS | 5 MINS READ Wednesday 17 / 06 / 2020
หลังจากที่เราผ่านด่าน Resume ไปแล้ว ถ้าคุณสมบัติครบถ้วนก็จะได้รับการติดต่อจากฝ่ายบุคคล หรือ HR ของบริษัทเพื่อทำการนัดสัมภาษณ์ โดยที่บางบริษัทอาจจะทำการสัมภาษณ์คร่าวๆทางโทรศัพท์ก่อนหรืออาจจะเรียกมาสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวเลย แล้วเราจะทำยังไงให้ประทับใจคนสัมภาษณ์? มาดูกันเลยค่ะ
เตรียม Resume และ Portfolio
ถึงแม้ว่าทางบริษัท อาจจะได้รับไฟล์ Resume และ Portfolio ไปแล้วทางออนไลน์ ในวันสัมภาษณ์ก็ควรจะพกติดตัวไปด้วยเช่นกัน เพราะหากฉุกเฉินจะได้ใช้ใบจริงที่ปรินท์มาเพื่อประกอบการแจกแจงผลงานการทำงานของเราหรือถ้ามีคนสัมภาษณ์คนอื่น ๆ เพิ่มเติมมานั่งด้วยก็จะได้ดูระหว่างการสัมภาษณ์ไปด้วย
2. เอกสารสำคัญห้ามลืม
หลังจากการนัดแนะเพื่อสัมภาษณ์บางคนอาจจะต้องเตรียมเอกสารไปให้ทีม HR ด้วย ซึ่งหลายๆครั้งเราก็ลืมเอาไป มาลองเช็คกันว่าควรพกเอกสารอะไรติดตัวไว้บ้าง
สำเนาบัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
ทรานส์คริปต์
ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
ผลการทดสอบวัดระดับภาษาตัวจริง (ถ้ามี)
นอกจากนั้น เราควรพกไปทั้งฉบับจริงและสำเนาเพิ่มเติมซัก1-2ฉบับ เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องไปวิ่งไล่หาที่ถ่ายเอกสารค่ะ
3. หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท
การทำการบ้านก่อนการสัมภาษณ์เป็นตัวช่วยให้เรารู้จักบริษัทมากขึ้น จึงควรหาข้อมูล ประวัติการก่อตั้ง รายละเอียดทั่วไปที่พอจะจำได้ เพราะหากกรรมการถามขึ้นมาเราจะตอบได้ทันที อีกทั้งยังจะดูเป็นผู้สมัครที่ดูตั้งใจกับการสมัครงาน หรือจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่วนตัวเล็กๆน้อยๆที่มีต่อบริษัทถ้ามี เช่น สมัครเป็นพนักงานโรงแรมที่เราเคยเข้าพัก สมัครเป็นเซลล์ขายรถยี่ห้อที่เราขับ
4. การแต่งตัว
ถ้า First Impression ของเรซูเม่ คือ รูปภาพ First Impressionของวันสัมภาษณ์ก็คือการแต่งตัว
เพราะเป็นด่านแรกที่ผู้สัมภาษณ์จะเห็นเมื่อเราเดินเข้าห้องมา การเลือกใส่เสื้อผ้านอกจากควรแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ ถูกต้องตามกาละเทศะแล้ว ยังควรเลือกโทนสีเสื้อผ้าเป็นโทนเรียบๆเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และดูสบายตา เช่น สีดำ
สีขาว สีฟ้า สีเทา ไม่ควรเลือกสีฉูดฉาด ส่วนรองเท้าไม่ควรใช้แบบโชว์หน้าเท้าหรือรองเท้าผ้าใบ หวีผมให้เรียบร้อย ไม่กระเซอะกระเซิงค่ะ
5. สติสำคัญที่สุด
วันสัมภาษณ์งานหลาย ๆ คนคงเกิดอารมณ์ตื่นเต้น มือสั่น ดังนั้นก่อนการสัมภาษณ์ควรปรับอารมณ์ตัวเองให้พร้อม
หายใจเข้า-ออกลึกๆ พยายามมีสติให้มากที่สุด แน่นอนว่าการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาในการใช้งานทั่วไปของเรา จำเป็นจะต้องอาศัยทักษะการฟังที่ดีเพื่อที่จะแปลความหมายของบทสนทนาให้ได้ ซึ่งถ้าหากผู้พูดพูดเร็วเกินไปเราสามารถขอให้พูดช้าลงซักเล็กน้อยโดยไม่เป็นการเสียมารยาท เช่น Could you speak a bit more slowly, please? – ช่วยพูดช้าลงอีกหน่อยได้ไหมคะ หรือ Could you repeat/say that again, please? คุณช่วยพูดมันใหม่อีกครั้งได้มั้ยคะ
6. ตอบคำถามตรงไปตรงมา
การตอบคำถามที่ดีจะเกิดขึ้นหลังจากเราเข้าใจคำถาม เมื่อถึงเวลาตอบคำถามเราควรพูดจาฉะฉาน ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีสำเนียงที่เพอร์เฟ็กต์เหมือนชาวต่างชาติมาเอง แต่ตอบอย่างมั่นใจ ไม่กระอักกระอ่วน พยายามอย่าหลบตากรรมการ และตอบตามความจริงเพราะหากเราโกหกออกไปแล้วโดนถามเกี่ยวกับสิ่งนั้นลึกขึ้น จะทำให้เกิดความลำบากการตอบมากขึ้น ไม่ควรโอ้อวดจนเกินงามและควรมีข้อมูลที่สามารถยกมาพูดเพื่อสนับสนุนตัวเอง และอย่าลืมตอบคำถามอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยนะคะ
7. นำเสนอตัวเอง
การนำเสนอตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ บางคนจะรอให้กรรมการถามก่อนจึงจะตอบ ถามเท่านี้ก็ตอบเท่านี้ ไม่ถามก็เงียบรออย่างเดียว ซึ่งหากเรานำเสนอตัวเองได้ มั่นใจในตัวเอง สามารถบอกเพิ่มเติมว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถนัดงานด้านนี้เพราะอะไร หรือมีประสบการณ์ที่อยากแชร์ จะทำให้บรรยากาศการสัมภาษณ์ไม่ดูตึงเครียดหรือเงียบจนเกินไปนะคะ
8. ขอบคุณ
เมื่อผ่านคำถามสัมภาษณ์มาทั้งหมดแล้วก่อนจะจบลงให้ลองพูดขอบคุณกรรมการผู้สัมภาษณ์ซักเล็กน้อยเป็นทิ้งท้ายความประทับใจ เช่น I really appreciate the chance to have an interview with you today. Thank you so much. ขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์วันนี้นะคะ
จะทำให้เราดูน่ารักขึ้นมาอีก สองเท่าเลยล่ะ
อย่าลืมนะคะ การสัมภาษณ์งานเริ่มต้นด้วยทักษะภาษาที่ดี เตรียมพร้อมในทุก ๆ ตอนทั้งก่อนการทำงานและระหว่างการทำงานกับ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์เหมาะกับวัยทำงานมากที่สุด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม