พูดคุยกับ “เฟื่องลดา” นางฟ้าแห่งวงการไอทีและซีอีโอบริษัท Flourish Digital

หลังจากเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนทั่วโลก ผู้คนมากหน้าหลายตาได้เข้ามาสู่วงการเทคโนโลยีและวงการสื่อออนไลน์อย่างเต็มตัว รวมถึงคุณเฟื่อง “สรานี สงวนเรือง” หรือ “เฟื่องลดา”นางฟ้าแห่งวงการไอทีที่หลาย ๆ คนรู้จัก สาวเก่งดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ที่ก้าวขึ้นมาสู่แนวหน้าของวงการไอทีเมืองไทยและมีบริษัทเป็นของตัวเองได้ในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น 

 แนะนำตัวเองกันหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ เฟื่องนะคะ ตอนนี้ทำบริษัทของตัวเองชื่อว่า Flourish Digital มีพนักงานเกือบ 30 คนค่ะ เราทำสื่อออนไลน์ คอนเทนต์หลักคือเรื่องราวเกี่ยวกับเทคโนโลยีและชีวิตกับอนาคตว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ตอนนี้มีเพจชื่อว่า LDA ลดา - Ladies of Digital Age ค่ะ

 ตอนนี้คุณเฟื่องดูแลด้านไหนในบริษัทบ้าง 

หลัก ๆ เรามีสามหน้าที่ในบริษัทค่ะ หนึ่งคือเป็นผู้ดูแลและผู้บริหาร เป็น representative ของบริษัท สองคือเป็นคนคุมเพจและช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ดูแนวทางเนื้อหาคอนเทนต์หรือสิ่งที่นำเสนอออกไปค่ะ และสามคือเป็นคนหน้ากล้องที่คอยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ค่ะ 

 คิดว่าหนึ่งสิ่งที่พาคุณเฟื่องมาถึงจุด ๆ นี้คืออะไรคะ

มันเป็นส่วนผสมของไอเดียและการลงมือทำค่ะ เราโชคดีมากที่มีทีมที่ดี ทีมที่ใช่และพร้อมซัพพอร์ต ที่จริงแล้วเป็นคนค่อนข้างโชคดีกับงานต่าง ๆ นะคะ 

“เราจะทำตัวเองให้พร้อมกับทุกโอกาสที่จะเข้ามาเสมอ”

และเป็นคนที่ถ้าอยากได้อะไร ก็จะต้องได้ ไม่ยอมแพ้หรือทิ้งไปง่าย ๆ ค่ะ 

 เป้าหมายในตอนนี้คืออะไร และคิดว่าใกล้ไปถึงแล้วหรือยัง

ปลายทางเราอยากเป็นคนธรรมดาที่มีความสุขค่ะ แต่ก็อยากสร้างอะไรบางอย่างไว้ให้กับสังคมหรือคนที่อยู่รอบตัวเรา ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขที่มากขึ้น ถ้าถามว่าตอนนี้ไปถึงหรือยัง ก็ถึงในระดับกลาง ๆ แล้วค่ะ รู้สึกว่าบาลานซ์ตัวเองได้ดีขึ้น ในเรื่องงานก็ทำอะไรไปประมาณหนึ่งแล้ว แต่รู้สึกว่ายังมีอะไรสนุก ๆ ให้ทำต่ออีกเยอะเหมือนกัน พอหันหลังไปมอง เหมือนกับมีมาร์คติ๊กถูกกับสิ่งที่เราทำสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่พอมองไปข้างหน้าก็เห็นว่ายังมีอีกหลายอย่างที่เราอยากจะทำต่อค่ะ 

 จากประสบการณ์ คุณเฟื่องคิดว่าภาษาอังกฤษสำคัญมากแค่ไหน

สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะโลกทุกวันนี้มีอินเทอร์เน็ตที่ทำให้เราเข้าถึงความรู้ได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่องค์ความรู้ที่ดีมักเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ ค่ะ ดังนั้นถ้าเรามีความรู้ทางด้านภาษา มันก็เป็นอีกสะพานที่พาเราเข้าถึงความรู้ได้อีกเยอะมาก ซึ่งความรู้มันก็คือ “โอกาส” การที่เรามีความรู้มาก ก็ยิ่งเป็นการเติมโอกาสหรือต่อยอดโอกาสให้กับตัวเองค่ะ และทุกอย่างที่เราทำมาเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี การเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ด้านนี้ได้ 

“เรารู้สึกว่า เราจะมาถึงจุดนี้ไม่ได้เลยถ้าเราไม่ได้ภาษาอังกฤษ”

เวลาที่มีข่าวอัพเดตเกี่ยวกับเทคโนโลยี หรือองค์ความรู้ที่กว้างกว่าหรือลึกกว่า หลาย ๆ ครั้งข่าวพวกนี้อยู่ใน source ภาษาอังกฤษค่ะ แต่เพราะเรารู้ภาษา เราเลยสามารถอัพเดตข่าวได้ก่อนคนอื่น ไม่ต้องรอเว็บไซต์ไทยแปลมาก็ได้ เราสามารถหาข้อมูลลึก ๆ ที่ไม่มีในไทยและแปลออกมาได้ ซึ่งก็มีประโยชน์ในงานด้านคอนเทนต์ 

หรือแม้กระทั่งในสายงานพิธีกร การที่คุณเป็นพิธีกรที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ก็มีภาษีมากกว่าค่ะ เวลาไปเป็นพิธีกรบนเวทีและต้องสัมภาษณ์แขกเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาก็ช่วยมาก ๆ ค่ะ

ในเรื่องการทำข้อตกลงทางธุรกิจ บางทีดีลใหญ่ ๆ ถ้าได้ภาษาอังกฤษก็เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสอีกเยอะมาก ภาษาก็เหมือนสะพานและประตูดี ๆ นี่เองค่ะ 

อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน หากรู้สึกถูกใจกับบทความนี้ สามารถเตรียมติดตามคลิปวิดีโอบทสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ของคุณเฟื่องและคุณจุ๊ย ซีอีโอบริษัท Globish Academia ได้ที่หน้าเพจเฟสบุ๊กของเราได้เร็ว ๆ นี้นะคะ หรือหากอยากติดตามผลงานของคุณเฟื่องสามารถติดตามได้เลยที่ LDA ลดา - Ladies of Digital Age | Facebook และแชนแนลยูทูป https://bit.ly/33gUfW6 

กระซิบอีกนิดว่า ปัจจุบันคุณเฟื่องเองยังให้พนักงานของบริษัท Flourish Digital ได้พัฒนาภาษาอังกฤษกับ Globish ด้วยนะคะ 

พัฒนาภาษาอังกฤษให้พูดได้อย่างมั่นใจ เตรียมพร้อมก่อนใครที่ Globish สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ ลงทะเบียนรับคำปรึกษาการเรียนได้ที่ https://bit.ly/3fxg7BF

‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍‍

#Globishภาษาอังกฤษสำหรับวัยทำงาน 

#พูดอังกฤษอย่างมั่นใจพูดได้ที่Globish