พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
3332 VIEWS | 5 MINS READ Monday 15 / 06 / 2020
การเขียน Resume เป็นปัจจัยที่สำคัญในการสมัครงานเพราะจะเป็นเอกสารสรุปข้อมูลส่วนตัวและประวัติการทำงานให้ทีม Recruiter ได้คัดเลือกเบื้องต้นในเพื่อจะได้พิจารณาในการเชิญผู้สมัคร หากมีคุณสมบัติครบถ้วนและมีประวัติโดยรวมที่น่าสนใจ ดังนั้นเราจึงต้องเขียนให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้ผ่านด่านแรกไปอย่างไร้กังวล เรามาดูกันว่า Resumeที่ดีต้องเป็นยังไงบ้าง?
ลักษณะทั่วไปของ Resume
Resume ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ ความยาว 1หน้ากระดาษ A4 นั่นหมายถึง เราต้องใส่ข้อความสำคัญที่จะแสดงความเป็นตัวเองให้มากที่สุด แต่ต้องเป็นสิ่งที่สั้น กระชับ ได้ใจความ (ถ้าเป็นคนที่มีประสบการณ์ทำงานเยอะ ใส่ 2หน้าได้)
รูปถ่ายของผู้สมัคร
บริษัทในประเทศไทยค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับรูปบน Resumeเปรียบได้ดั่ง First impressionของใบสมัคร หากผู้สมัครงานไม่ได้ใส่รูปตัวเองก็อาจจะถูกคัดออกตั้งแต่แรก การใส่รูปจึงเป็นสิ่งหนึ่งแรกที่จะช่วยดึงความสนใจของ Recruiterและควรเลือกรูปที่ดูทางการ เรียบร้อย เห็นใบหน้าชัดเจน ไม่สวมแว่น พื้นหลังไม่รก ไม่ใช้รูปเซลฟี่ ไม่ใส่ฟิลเตอร์
ข้อมูลส่วนตัวต้องครบ
เรื่องเล็กๆที่ผู้สมัครอาจจะมองข้ามเกี่ยวกับตัวเอง เช่น ลืมใส่เบอร์โทรศัพท์ อีเมลก็ไม่มี ทีม HR ก็ไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อกลับทางไหน ก็อาจจะทำให้ใบสมัครนั้นถูกคัดออกได้ง่ายๆ และควรใส่ข้อมูลส่วนตัวเอาไว้ด้านบนของหน้ากระดาษเพื่อความสะดวกในการหา นอกจากนั้นยังสามารถใส่ข้อมูลอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรจะเรียกสัมภาษณ์ด้วย เช่น วันเริ่มงาน (Start Date) และ เงินเดือนคาดหวัง (Expected Salary)
Education หรือ การศึกษาควรจะใส่ระดับการศึกษาให้ชัดเจน เรียนที่ไหน ปีไหน ด้านไหน เพื่อเป็นตัวช่วยในการพิจารณาเบื้องต้นว่าเราสมัครงานตรงกันกับสายการเรียนมั้ย หรือหากไม่ตรง เหล่า Recruiter ก็ยังสามารถจะไปดูที่ประสบการณ์ของผู้สมัครในลำดับต่อไป
Skills หรือทักษะ
ควรระบุทักษะของผู้สมัครที่มีเด่นๆ หากสมัครงานตรงกับสายที่ตัวเองเคยทำมาให้นำเสนอไปเต็มที่ นอกจากนั้นเราสามารถระบุความสามารถพิเศษ การเรียนหรือการฝึกอบรมอื่นๆด้วยตนเองเพิ่มเติม เช่น คอร์สเรียนออนไลน์ของมหาวิทยาลัยต่างประเทศ เป็นต้น
ระบุความสามารถทางภาษา
สมัยนี้การสมัครงานในประเทศไทยหลาย ๆ ตำแหน่งก็จำเป็นจะต้องมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษเป็นหลักถึงจะได้รับการคัดเลือกก่อน ซึ่งหากผู้สมัครมีคะแนนภาษาอังกฤษจากสถาบันทดสอบภาษาจะดีมาก เช่น TOEIC, TOEFLและหากว่ามีความสามารถทางภาษาที่สามจะช่วยให้คุณดูโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่น ๆ มากขึ้นด้วย
Work experience
หากเป็นนักศึกษาจบใหม่ ให้ใส่ประสบการณ์ที่เคยทำตอนอยู่มหาวิทยาลัย รวมไปถึงการฝึกงาน การประกวดหรือกิจกรรมอาสาต่างๆ แต่หากมีงานทำแล้วก็ให้ใส่เน้นไปที่เรื่องงาน ตำแหน่งงาน หน้าที่ที่รับผิดชอบหลัก หน้าที่รอง โปรเจ็กต์ที่ทำเอง การได้ปรับตำแหน่ง เป็นต้น
ความถูกต้อง
นอกจากผู้สมัครควรใส่ข้อมูลที่เป็นจริงแล้ว (อย่าโกหกจนเว่อร์)แกรมมาร์และการสะกดคำก็สำคัญมาก ปัจจุบันเรามีตัวช่วยมากมายที่จะช่วยเช็คแกรมมาร์และคำผิด เช่น Grammarly, Ginger หรือเว็บไซต์อื่นๆที่สามารถใช้ได้ฟรี ผู้สมัครจึงควรทำการตรวจทานให้เรียบร้อยก่อนการนำไปวางใน Template ของ Resume
การออกแบบ
ดีไซน์ของ Resume สมัยใหม่มักลูกเล่นมากมาย แต่เมื่อถามทีม Recruitmentแล้ว ก็จะยังคงยึด Resumeที่เรียบง่าย อ่านง่าย สีไม่ฉูดฉาด ไม่ลายตา ข้อมูลไม่ควรอัดแน่นจนเกินไป หากจะแสดงฝีมือการออกแบบสามรถไปทำใน Portfolioซึ่งเป็นแฟ้มรวบรวมผลงานของตัวเองแทน อย่าลืมเลือกตัวอักษรที่ชัดเจน อ่านง่าน และไม่เล็กจนเกินไปและให้เซฟเป็นไฟล์ PDFหรือDocx
สุดท้ายแล้วหาก Resume ของผู้สมัครดีแค่ไหน แต่พอถึงรอบสัมภาษณ์กล้า ๆ กลัว ๆ ตอบคำถามไม่ชัดเจน แปลคำถามไม่ออกก็อาจจะชวดตำแหน่งนั้นไปได้ง่าย ๆ ดังนั้นอย่าลืมทำการบ้านก่อนการสัมภาษณ์ หาข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับบริษัท เตรียมภาษาอังกฤษของเราให้พร้อม หรือจะลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษตอนว่างๆก่อนก็เป็นตัวช่วยที่ดี แล้วหลังจากนั้นค่อยพกความมั่นใจไปสัมภาษณ์งานค่ะ