10 หัวข้อง่ายๆ สำหรับเริ่มต้นพูดคุยกับเจ้านายฝรั่ง ลูกค้า และเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติ

เจอลูกค้าฝรั่ง หรือเจ้านายชาวต่างชาติทีไร ทำตัวไม่ถูกทุกที ยิ่งเวลาที่ต้องหาเรื่องคุย เพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอประชุมหรือรอลิฟท์ด้วยกัน จะยิ้มให้อย่างเดียวคงไม่ได้ใช่ไหม? งั้นเรามาลองดู 10 หัวข้อนี้ที่คุณสามารถชวนเจ้านาย ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติให้คุยกับคุณได้อย่างไม่เก้อเขิน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ชวนคุยเกี่ยวกับโปรเจ็คท์ หรืออาสาให้ความช่วยเหลือเรื่องงาน

ถ้ากำลังอยู่ในช่วงมีโปรเจ็คท์อะไรใหม่ๆ คุณอาจถามเพื่อให้เขาอธิบายถึงความสำคัญของโปรเจ็คท์ที่กำลังทำอยู่ มีปัญหาอะไรบ้าง และทีมคาดหวังว่ามันจะออกมาแก้ปัญหาในเรื่องใดได้ และถ้าคุณเอง มีข้อมูลที่สามารถช่วยให้โปรเจ็คท์นั้นดีขึ้นได้ ลองชวนเขาออกไปพักดื่มกาแฟด้วยกันเพื่อพัฒนาทั้งเรื่องงาน และความสัมพันธ์ในที่ทำงานนะครับ

ถามเรื่องวันหยุดพักผ่อน ไปเที่ยวไหนมา?

โดยเฉพาะถ้าวันนั้นเป็นวันจันทร์ ลองชวนคุยเกี่ยวกับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเขาไปพักผ่อนที่ไหนมาบ้าง มีกิจกรรมอะไรสนุก ๆ แนะนำในช่วงสุดสัปดาห์บ้างไหม โดยคุณอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารที่น่าสนใจในท้องถิ่นที่เขาสามารถแวะไปทานได้ หรือแนะนำคาเฟ่บรรยากาศสงบ ๆ เพื่อนั่งทำงานในวันหยุด ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย

ถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในกระแสสังคม หรือในโซเชียล

“ดีจังเลยนะครับ ที่ร้านนี้เลิกใช้แก้วพลาสติกแล้ว”

คุณยกแก้วกาแฟกระดาษในมือขึ้นดื่ม และถามเขาว่าเขาคิดเห็นอย่างไรเรื่องการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างพร่ำเพรื่อในประเทศไทย เขาเคยเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วได้ถุงพลาสติกซ้อนกันสองใบไหม หรือร้านชานมไข่มุกที่มีถุงซ้อนแก้วอีกทีนึง หัวข้อเหล่านี้คือก็หยิบยกกระแสสังคมที่มีความเป็นระดับโลกขึ้นมาพูด ซึ่งหัวข้อเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ว่าคนชาติไหนก็คงได้เจอในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว (การรักษาสิ่งเวดล้อมเป็นเรื่องที่มาแรงมากในปัจจุบัน!) เลือกหัวข้อที่ไม่ยากจนเกินไป และไม่เฉพาะเจาะจงเกินไป (เช่น เดอะ มาสก์ซิงเกอร์ ที่ฝรั่งคงไม่ได้ดู!) ยิ่งถ้าเป็นหัวข้อที่คนมักเห็นไปไนทางเดียวกันได้ก็จะยิ่งดีเลยครับ

อัพเดทเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของวงการธุรกิจ เล่าเคสลูกค้า หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ น่าสนใจในการทำงาน

ไม่ว่าจะทำงานวงการไหนก็ต้องหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาเทคนิคในการทำงานกันทั้งนั้น ถ้าคุณได้ติดตามเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ ในวงการ ที่น่าจะส่งผลกระทบกับการทำงานในฟิลด์ของคุณ ลองเล่าเรื่องที่คุณไปอ่านมา และถามเขาดูว่าเขาทราบเรื่องนี้แล้วหรือยัง คิดว่ามันจะมาช่วยพัฒนาเทคนิคการทำงานได้อย่างไร หรืออาจคุยเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต พร้อมซักถามถึงการเตรียมตัวเพื่อรับมือภาวะเหล่านั้น

ถามเกี่ยวกับสิ่งของที่เขาใช้

มือถือรุ่นนี้ที่มีปากกา..ใช้สะดวกดีไหมครับ โน๊ตบุ๊ครุ่นนี้เบาจริง ๆ ใช่ไหม หรือนาฬิกาคุณดูเรียบหรูสวยมาก มันมีฟังก์ชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้างหรือครับ เรื่องอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำงานเหล่านี้เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เขาตอบได้ง่าย ๆ และถ้าคุณชื่นชมในสิ่งของที่เขาเลือกใช้ เขาก็อาจมีความรู้สึกเชิงบวกให้กับคุณได้ครับ

พูดคุยเกี่ยวกับสภาพอากาศภายนอก การเดินทาง

อากาศที่ไหน ๆ ในโลกก็คงต้องมีความแตกต่างกันบ้างไม่มากก็น้อย และมนุษย์ทุกคน เมื่อมาเจอสภาพอากาศที่ต่างไปจากบ้านตัวเองก็คงต้องปรับตัวกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว คุณอาจถามเขาว่าเขาชินกับแดดบ้านเราหรือยัง อุณหภูมิวันนี้สูงถึง 40 องศาเซลเซียสเลยนะ แล้วเดินทางมาอย่างไร รถติดมากไหม ต้องการเครื่องดื่มอะไรไหม บทสนทนาเหล่านี้เป็นการคุยโดยผิวเผิน เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างกันได้ครับ

ถ้ารู้ความสนใจของเขา...ชวนคุยเรื่องบันเทิง

คุณสังเกตเห็นแก้วกาแฟของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติเป็นรูปสตรอมทรูปเปอร์ จากเรื่องสตาร์วอร์ส คุณอาจถามเขาก็ได้ว่าเขาชอบภาคไหนมากที่สุด และคุณสงสัยว่าควรดูเรียงภาคอย่างไรถึงจะถูกต้องตามไทม์ไลน์ของหนัง แฟนหนังเหล่านี้ไม่อิดออดที่จะให้คำแนะนำแน่นอน แต่สิ่งที่ต้องระวังคืออย่าถามมั่ว ๆ โดยที่คุณ “ไม่มีความรู้เลย” เช่นเขาชอบ “สตาร์เทร็ค” แต่คุณไปคิดว่ามันคือ “สตาร์วอร์ส” ซะอย่างนั้น!

สอบถามสภาพจิตใจ เหนื่อยมั้ย เครียดมั้ย กังวลอะไรบ้าง

ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง งานเยอะไหมครับ ยังคงเป็นไปตามไทม์ไลน์ไหม มีปัญหาอะไรที่น่ากังวลบ้างหรือเปล่า การคุยกันสั้น ๆ นี้ไม่ได้หวังผลไปถึงให้คุณเข้าไปช่วยงานเขา แต่เป็นการได้ผ่อนคลายกันเบา ๆ เพราะจริง ๆ แล้วการบ่นให้กันฟัง มันช่วยให้เรารู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้น และเรากำลังผ่านสถานการณ์เหล่านี้ไปด้วยกันนั่นเอง

พูดคุยเกี่ยวับปัญหาสุขภาพจิต และออฟฟิศซินโดรม ไปจนถึงการบริหารร่างกาย

นั่งทำงานออฟฟิศทุกวัน ยากนักที่ใครจะสามารถมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเต็มร้อยได้ เอาง่าย ๆ เลยก็หนีไม่พ้นเรื่องอาการปวดเมื่อยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นกับคนทำงานนั่งโต๊ะทุกคน หรือรวมไปถึงกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมต่าง ๆ ที่เข้ามาสร้างความรำคาญให้กับคุณ นอกจากเรื่องทางกายแล้ว ที่ฮิตไม่แพ้กันก็คืออาการทางใจ ยิ่งในยุคที่การแข่งขันสูงและโลกหมุนเร็วเช่นนี้ หัวข้อ “โรคซึมเศร้าและปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ” คงเป็นอีกหัวข้อที่เราจะมองข้ามไม่ได้เช่นกัน ลองนำไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติดูสิครับ

คุยเกี่ยวกับความเป็นไปต่าง ๆ ในออฟฟิศ

สุดท้ายสำหรับคนที่ชอบอะไรง่าย ๆ ใกล้ตัว คือการพูดคุยเกี่ยวกับสภาพความเป็นไปต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในออฟฟิศ มองไล่ไปตั้งแต่ประตูทางเข้า สีที่ทาใหม่ ตู้นำดื่ม ห้องพักเบรก ความสว่างของไฟ อุณหภูมิที่เย็นหรือร้อนเกิดไป แสงแดดที่ส่องเข้ามา เสียงที่ดัง - เบา และตำแหน่งโต๊ะที่เดินเข้าออกยากหรือง่ายเหล่านี้ มันเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ของคนที่นี่ และสถานที่ก็สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กร ลามไปถึงความประพฤติของผู้คน ซึ่งคุยกันได้อย่างไม่จบสิ้น

หัวข้อง่าย ๆ เหล่านี้ อาจไม่ได้ช่วยทำให้คุณสนิทกันทันที หรือรู้ใจกันประหนึ่งเพื่อน แต่มันคือการทำลาย “กำแพงของความไม่รู้จัก” ได้เป็นอย่างดี และเมื่อคุณคุ้นเคยกันมากขึ้?