พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
2031 VIEWS | 2 MINS READ Monday 16 / 03 / 2020
ปัจจุบันเด็ก ๆ สามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้รวดเร็วทำให้การรับรู้ด้านการเหยียดและรังแกเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ทั้งผ่านการรับชมละคร โฆษณา การ์ตูน และสื่อออนไลน์อื่นๆ เช่น โฆษณาผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว เด็กจะรับรู้และเข้าใจผิดว่าผิวขาวคือสวยและทำให้เกิดการเหยียดคนที่ผิวคล้ำว่าไม่สวย หรือการรับชมละครที่มีการรังแกผ่านโซเชียล เด็ก ๆ อาจจะเลียนแบบพฤติกรรมทำให้เกิดการรังแกกันผ่านโซเชียลได้ค่ะ
Bully เป็นการแสดงออกหรือการกระทำในลักษณะที่รุนแรง โดยมีจุดมุ่งหมายในการทำร้ายจิตใจ โดยวิธีต่างๆ เช่น บังคับ ขู่เข็ญ คุกคาม ทุบตี ล้อเลียน กีดกันออกจากสังคม หรือจำกัดเสรีภาพ จิตใจ เนื่องจากผู้รังแกมีเจตนาทำร้ายทั้งทางร่างกายหรือจิตใจ ดังนั้นเมื่อลูกถูก Bully คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจต่อลูก โดยสามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ดังนี้
อย่างแรกเมื่อเรารับรู้ว่าลูกถูก Bully คุณพ่อคุณแม่ควร “ให้กำลังใจ” กับเค้าค่ะ
แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นที่พึ่งทางใจของลูก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ จากการถูก Bully เราก็ต้องคอยให้กำลังใจเค้า รับฟังเค้า คอยสอบถามและแสดงอาการเป็นห่วงถึงเค้า การที่เราให้กำลังใจกับลูก จะช่วยให้เค้ามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น ช่วยให้เค้าผ่อนคลายจากสิ่งที่เค้าพบเจอ
ถัดมาเมื่อเราให้กำลังใจเค้าแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ควร “เป็นที่ปรึกษาที่ดี” ให้กับเค้า
คุณพ่อคุณแม่ควรมีส่วนช่วยในการแนะนำแนวทางแก้ไขจากสิ่งต่าง ๆ ที่เค้าพบเจอมา ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเค้าให้แจ้งผู้ใหญ่ทุกครั้งที่ถูกกระทำ หรือให้แจ้งคุณพ่อคุณแม่ทุกครั้งด้วย รวมถึงสอนเค้าให้เข้าใจว่า ลูกนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด มันไม่ใช่ปัญหาของลูก แต่เป็นปัญหาของผู้ที่กระทำหรือกลั่นแกล้งลูก ดังนั้นลูกก็ต้องเข้มแข็ง โดยที่คุณพ่อคุณแม่เองก็ควรที่จะรับฟังเรื่องราวต่าง ๆ ของลูกอย่างเข้าอกเข้าใจด้วยค่ะ
และสุดท้ายคุณพ่อคุณแม่ควร “ใส่ใจดูแลสุขภาพกายและจิตใจ” ของเค้า
สภาพร่างกายและจิตใจของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากลูกถูก Bully ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจจะเป็นสิ่งที่กระทบต่อตัวเค้าในระยะยาว ซึ่งหากพบเห็นว่ามีท่าทีไม่ดีก็ควรพาน้องไปรักษาหากเกิดบาดแผลทางด้านร่างกาย รวมไปถึงพาเค้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและจิตวิทยาเด็กโดยตรง เพื่อช่วยเยียวยาจิตใจของเค้า และแก้ปัญหาที่เค้าพบเจออย่างตรงประเด็นและถูกต้องที่สุด
การ Bully ไม่ว่าจะผ่านการใช้คำพูดล้อเลียน พูดลวนลามทางเพศ หรือการรังแก การแกล้งกัน ทำให้พฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นความรุนแรงในรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจต่อลูก ทั้งการอบรมเลี้ยงดูให้ลูกเข้าใจ ให้กำลังใจลูกเมื่อถูกแกล้ง หรือส่งเสริมให้ลูกได้รู้จักการยอมรับในตนเองและผู้อื่นซึ่งจะนำมาซึ่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ค่ะ