พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
3404 VIEWS | 5 MINS READ Wednesday 11 / 03 / 2020
คุณพ่อหรือคุณแม่ทราบหรือไม่คะ ว่าเด็กไทยส่วนใหญ่มีระดับภาษาอังกฤษอยู่ที่ A1 ซึ่งเป็นระดับภาษาที่พอจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่ง สามารถเข้าใจในตัวคำถามแต่อาจจะยังไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่าทำไมถึงตอบคำถามแบบนี้ค่ะ
โดยระดับภาษาของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามการเรียนรู้ที่ได้รับมาทั้งจากที่บ้าน หรือที่โรงเรียน รวมถึงสภาพแวดล้อมภายนอกที่จะช่วยส่งเสริมเค้าให้พูดภาษาอังกฤษได้ แล้วลูกของคุณควรมีระดับภาษาอยู่ในระดับไหนมาสำรวจกันค่ะ
ช่วงอายุ 6-9 ปี ระดับภาษาของน้องควรอยู่ที่ Pre Beginner
น้องที่มีอายุระหว่าง 6-9 ปี เป็นวัยที่อยู่ในช่วงของวัยเรียน ซึ่งน้อง ๆ ที่มีอายุระหว่างนี้จะมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ที่มากขึ้น ทั้งการเรียนรู้ในตำราและนอกตำรา รวมถึงเป็นวัยที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะการเรียนรู้ด้านภาษา เพราะเค้าจะเริ่มจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดี
นอกจากนี้ยังเป็นวัยที่เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มมีความคิดที่เป็นระบบมากขึ้น ดังนั้นในช่วงวัยนี้หากได้เริ่มเรียนรู้ภาษาอังกฤษมาบ้าง เค้าควรจะมีระดับภาษาอยู่ที่ระดับ Pre Beginner หรือเป็นระดับภาษาก่อนการเริ่มต้นนั่นเองค่ะ
ระดับภาษาของ Pre Beginner เป็นระดับภาษาของเด็กที่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นคำ ๆ พอรู้จักคำศัพท์มาบ้างง่าย ๆ แต่ยังมีคลังคำศัพท์ที่น้อยอยู่ อย่างคำศัพท์เกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ เกี่ยวกับครอบครัว แต่เค้ายังไม่ค่อยเข้าใจในคำถามภาษาอังกฤษ รวมถึงไม่สามารถตอบคำถามเป็นประโยคได้ ซึ่งส่วนใหญ่น้องจะตอบคำถามได้แค่เป็นคำ ๆ แต่รวมเป็นประโยคยาวไม่ได้
เช่น เมื่อถามน้องว่า What is your name ? น้องจะตอบได้แค่ชื่อเพราะรู้ความหมายของคำว่า Name จึงรู้ว่าประโยคนี้หมายถึงอะไร แต่ไม่สามารถตอบเป็นประโยคอย่าง My name is … หรือเมื่อถามน้องว่า How old are you ? น้องจะตอบมาแค่อายุที่เป็นตัวเลขเท่านั้น ซึ่งเค้าจะไม่สามารถตอบในรูปประโยคที่ยาวได้อย่าง I am … years old.
ช่วงอายุ 10-13 ปี ระดับภาษาของน้องควรอยู่ที่ A1
น้องที่มีอายุระหว่าง 10-13 ปี เป็นวัยที่อยู่ในช่วงของวัยเด็กโต ซึ่งน้อง ๆ ที่มีอายุระหว่างนี้นี้พัฒนาทางสมองจะเริ่มสมบูรณ์ เพราะเค้าจะแยกแยะเรื่องราวต่าง ๆ ได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไหนเป็นเรื่องในจินตนาการ
นอกจากนี้ยังเป็นวัยแห่งการสร้างสรรค์และแสดงออกทางความคิดต่าง ๆ ซึ่งเค้าควรจะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษมาบ้างจากที่โรงเรียน โดยในวัยนี้ควรจะมีระดับภาษาอยู่ที่ A1 กล่าวคือเป็นระดับภาษาที่สามารถสื่อสารได้เบื้องต้นค่ะ
ระดับภาษาของ A1 เป็นระดับภาษาที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่ง สามารถเข้าใจในตัวคำถาม และตอบคำถามได้เบื้องต้น โดยหลัก ๆ หากถามเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันจะสามารถตอบคำถามเหล่านี้รู้เรื่อง เค้าจะเข้าใจในคำถามที่ถามไปและสามารถตอบเป็นประโยคได้แค่สั้น ๆ แต่อาจจะยังไม่สามารถให้เหตุผลได้ว่าทำไมถึงตอบเช่นนี้ แม้จะรู้คำตอบเป็นภาษาไทยแต่ไม่สามารถตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ
เช่นเมื่อถามน้องว่า What do you want to be in the future ? why ? น้องจะสามารถให้คำตอบได้ว่า I want to be a … แต่เค้าจะไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าทำไมถึงอยากเป็นสิ่งนี้ ทั้งที่อาจจะรู้คำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วค่ะ หรือเมื่อถามเกี่ยวกับ What do you like to do in your freetime ? น้องอาจจะตอบได้ว่า I like to do… แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าทำไมเค้าถึงชอบทำสิ่งนี้
ช่วงอายุ 14 ปีขึ้นไป ระดับภาษาของน้องควรอยู่ที่ A2
น้องที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่อยู่ในช่วงของวัยรุ่น โดยน้อง ๆ ที่มีอายุในช่วงนี้เค้าจะเริ่มแสวงหาว่าเค้าอยากเป็นอะไร อยากเป็นแบบใครค่ะ รวมถึงเริ่มอารมณ์ที่อ่อนไหว คุณพ่อคุณแม่จะต้องใจเย็นและค่อย ๆ สอนเค้าให้เปิดรับสิ่งใหม่ ๆ และความเข้าใจในตัวเองค่ะ
นอกจากนี้ยังเป็นช่วงวัยแห่งการพัฒนาตน โดยเฉพาะสติปัญญาของเค้าจะสามารถมีความคิดที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงสามารถที่จะคิด วิเคราะห์ และแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดี ซึ่งในวัยนี้ควรจะมีระดับภาษาอยู่ที่ A2 กล่าวคือเป็นระดับภาษาที่สามารถสื่อสารได้โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ระดับภาษาของ A2 เป็นระดับภาษาที่สามารถสื่อสารได้ในชีวิตประจำวัน โดยจะสามารถสื่อสารโต้ตอบเรื่องราวต่าง ๆ เป็นประโยคได้ เข้าใจในรูปประโยคว่าถามอะไร และทราบว่าจะต้องตอบคำถามนั้นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเค้าจะให้เหตุผลในสิ่งที่ตอบได้ ผ่านการเล่าเรื่องของตัวเองจากคำถามที่ถามมาแม้ว่าหลักไวยกรณ์อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ก็ยังสามารถสื่อสารออกมาให้เข้าใจได้ค่ะ
เช่นเมื่อถามน้องว่า What is your favorite country ? น้องจะสามารถตอบได้ว่า My favorite country is … , Because … ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงชอบ ผ่านการเล่าเรื่องจากประสบการณ์ในตัวเอง อย่างน้องอาจจะตอบว่า ชอบประเทศญี่ปุ่น เพราะเคยไปกับครอบครัว ตอนที่ไปอากาศดีมาก เย็นสบาย เค้าจึงชอบ โดยคำอธิบายนี้อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักไวยกรณ์ของภาษาอังกฤษก็เป็นได้ แต่เค้าสามารถอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ได้พอเข้าใจ