พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
2485 VIEWS | 4 MINS READ Tuesday 04 / 02 / 2020
‘Globalization’ หรือ กระแสโลกาภิวัตน์ เป็นสิ่งที่หลายคนทราบดีว่าคอยขับเคลื่อนให้โลกนี้ให้เกิดการเจริญเติบโต ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ซึ่งมีผลกระทบอันสำคัญต่อส่วนอื่นๆ ของโลก แต่ในช่วงที่ผ่านมามีเทรนด์ ‘digitalization’ คือการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้เทคโนโลยีนั้นก้าวเข้ามามีบทบาทในหลากหลากแง่มุมของชีวิต ไม่เว้นแม้แต่การทำงาน ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเทรนด์สำคัญๆ ที่กำลังแพร่หลายในช่วงนี้ ที่นอกจากจะทำให้บริษัทได้พนักงานที่มีประสิทธิภาพ และทุ่มเทให้กับการทำงานแล้ว ทางด้านพนักงานก็ได้มีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ พร้อมกับอิสระภาพในการวางแผนงานให้เหมาะสมกับหน้าที่ที่ได้รับ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค ‘gig economy’ ซึ่งคือระบบเศรษฐกิจแบบเสรีโดยผู้ทำงานเข้าไปทำงานในโปรเจกต์ต่างๆ ตามแต่ละสาขางานในระยะสั้น หรือที่เราเรียกกันว่า ฟรีแลนซ์ นั้นเอง ซึ่งผู้ว่าจ้างสามารถจ้างงานเป็นจ็อบๆ ไป ทำให้บริษัทได้ประหยัดงบด้านสถานที่ ในทางกลับกันก็อาจจะต้องเสียค่าจ้างงานที่สูงขึ้น แต่ก็ได้งานที่มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเม็ดเงิน ในปัจจุบันมีผู้ที่รับงานแบบ ฟรีแลนซ์ มากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยเนื่องจากสอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ ทั้งยังสร้างรายได้ให้กับผู้ที่ต้องการความสันโดษ และรักในแนวทางการทำงานของตัวเอง ซึ่งทำให้ผลงานที่ได้มีประสิทธิภาพ และเอกลักษณ์ในแบบของผู้ทำงาน
การทำงานนอกสถานที่ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ เพราะการนั้งอุดอู้ อยู่แต่ในออฟฟิศเป็นเวลานานๆ ทำให้พนักงานไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ ในทางกลับการ การได้ทำงานในโปรเจกต์ที่หลากหลายอย่างเป็นอิสระ ทำให้พนักงานได้ฝึกทักษะ และขยายขอบเขตความรู้ใหม่ๆ ซึ่งส่งผลดีให้กับพนักงานทั้งด้านคุณภาพชีวิต และการทำงาน อย่างไรก็ตามการ work from home อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคน โดยหัวหน้าทีมควรเรียนรู้ว่าพนักงานคนใดสามารถทำงานได้ดีที่ออฟฟิศ หรือนอกสถานที่
หลายคนคงรู้อยู่แล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่การพูดภาษาต่างประเทศได้ เป็นแต้มต่อให้คุณได้อย่างมากมายในการทำงาน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ถือว่าเป็นภาษาพื้นฐาน เพราะมีการใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารอย่างกว้างขวาง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีคนใช้มากที่สุดในโลกเนื่องด้วยประชากรของจีน แต่ภาษาที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลกก็ยังคงเป็นภาษาอังกฤษ โดยที่ 80% ของคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ใช่ native speaker ด้วยซ้ำ
ภาษาอังกฤษเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก ในด้านการทำงานภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษช่วยให้คุณหาความรู้เพิ่มเติมได้จากสื่อทั่วโลก แถมคุณยังสามารถสร้างเครือข่าย ความสัมพันธ์ในระดับนานาชาติ และข้อเสนองานต่างๆ อีกมากมาย ที่หากขาดภาษาอังกฤษ ทุกอย่างที่พูดไปก็อาจจะไกลเกินเอื้อม เพราะในหลายๆ บริษัทให้ความสำคัญกับทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของพนักงาน
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาการศึกษา ทำให้คุณสามารถเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดาย ด้วยคลาสเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่จะทำให้คุณสามารถเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัว กับโค้ชชาวต่างชาติ อย่างที่ Globish เราได้พัฒนาหลักสูตรขึ้นมาให้ตอบสนองต่อการแก้ปัญหาการสื่อสารภาษาอังกฤษของคนไทยอย่างตรงจุด
ตามการวิเคราะห์ ของ McKinsey Global Institute ภายในปี 2030 จะมีประชากรมากกว่า 37ล้านคน ที่จะต้องเปลี่ยนสายงาน และต้องมีความสามารถที่หลากหลายเพื่อที่ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งเป้าหมายของ Reskill หรือการเพิ่มทักษะใหม่ๆ คือการเติมเต็มส่วนที่พนักงานพร่องไป และยังคงสถานภาพการจ้างงานในสภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ แน่นอนว่าประโยชน์ของการ reskill มีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะประหยัดงบในการรับสมัครพนักงานใหม่ ไม่ต้องเปลี่ยนพนักงานใหม่บ่อยๆ และยังทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนให้บริษัทเกิดการพัฒนาอีกด้วย เพราะเมื่อพนักงานได้รับการพัฒนา บริษัทก็จะก้าวหน้าตามไปด้วย
สมัยนี้พนักงานมีความต้องการที่จะพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้ตนเอง จึงทำให้พวกเขาไม่ค่อยชอบทำอะไรเดิมๆ หลายๆ ปี จึงส่งผลให้มีพนักงานลาออกเป็นจำนวนมากหากต้องทำงานเดิมซ้ำๆ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับหลายบริษัทที่จะหาพนักงานที่เหมาะสม ดังนั้นพวกเขาจึงหันมาเทรนพนักงานที่มีอยู่เดิม ให้มีความสามารถในการทำงานได้หลากหลายด้านมากขึ้น เพื่อลดการจ้างงานใหม่บ่อยๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย บริษัทได้พนักงานที่ดี พนักงานได้พัฒนา
การติดตามความคืบหน้าของการทำงาน การวางแผนงานใหม่ หรือการรายงานความเคลื่อนไหวทั่วไปของบริษัทให้พนักงาน อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ น่าเสียดายที่หลายบริษัทเลือกที่จะประชุมรายงานความเคลื่อนไหวของบริษัทนานๆ ที การประชุมแบบตัวต่อตัวอย่างเป็นระบบสามารถช่วยให้งานสำเร็จเร็วขึ้น และยังทำให้สามารถมองเห็น และแก้ปัญหาเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันการทำงานให้มีประสิทธิภาพอาศัยการสื่อสารภายใน และการตอบสนองที่ดี ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการประชุม หรือแม้แต่ในบทสนทนาทั่วไป ดีกว่าการประชุมรายงานผลประจำปี
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูแบบนี้ วิธีการที่คนเราติดต่อสื่อสารกันนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่เว้นแต่การสื่อสารในการทำงานที่ภายในทีมต้องการการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว และสะดวกขึ้น การติดต่อสื่อสารผ่าน e-mail เริ่มที่จะเก่าเกินไปสำหรับยุคนี้แล้ว เพราะในสมัยนี้การติดต่อสื่อสารนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกกว่าเดิมเพียงปลายนิ้วสัมผัส เทรนด์ในการติดต่อสื่อสารในการทำงานในปัจจุบันจึงหันไปพึ่งพาแอพลิเคชั่นอย่าาง LINE หรือ WhatsApp กันมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการติดต่อสื่อสารที่เหมาะกับการทำงานยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมวิธีการทำงานสมัยใหม่นั้นถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก ทั้งยังเป็นโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวก จึงคาดการณ์ได้ว่าในปี 2020 นี้อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานไปในหลากหลายทิศทาง