พร้อมทดสอบวัดระดับฟรี
4406 VIEWS | 5 MINS READ Tuesday 04 / 05 / 2021
หลาย ๆ ท่านอาจจะสงสัยว่า Visual Storytelling มีหน้าตาแบบไหน แต่หากได้รู้แล้ว เชื่อว่าทุกท่านก็ต้องร้องอ๋อ… อย่างแน่นอนค่ะ
เพราะ Visual Storytelling ก็คือ การใช้รูปภาพในการเล่าเรื่องเป็นหลัก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คนดูเข้าใจได้ง่ายยิ่งกว่าอ่านตัวหนังสือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้รูปภาพอะไรก็ได้นะคะ เพราะต้องเลือกภาพให้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อด้วย หากเลือกรูปสวย แต่ไม่ได้สื่อความหมาย ก็ถือไม่มีประโยชน์ในการเล่าเรื่องค่ะ
ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ ท่านมักจะคุ้นเคยกับการใช้ Visual Storytelling หรือการใช้ภาพมาช่วยเล่าเรื่องตามโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วประโยชน์ของ Visual Storytelling ไม่ได้มีเพื่อนำเสนอสินค้าเท่านั้น เพราะฝ่ายบุคคลอย่างเราก็สามารถนำวิธีการนี้มาปรับใช้เพื่อพัฒนาองค์กร ทั้งในด้านความสัมพันธ์ และด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะคะ
โดยในปัจจุบันมีการนำ Visual Storytelling มาปรับใช้กับการทำงานในองค์กรผ่านทางฝ่ายทรัพยากรบุคคลหรือ HR ในหลาย ๆ องค์กรเลยค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วทางฝ่าย HR จะมีหน้าที่หลัก ๆ คือการบริหารทรัพยากรบุคคล โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเข้ามาช่วยทำงาน ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปที่ตัวเองมี เพื่อค้นหาผู้สมัครงานใหม่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และจะทำอย่างไรให้ผู้สมัครเหล่านี้สนใจเข้าทำงานในองค์กร ตลอดจนหาวิธีการรักษาความสุขของพนักงาน
ซึ่งเมื่อนำ Visual Storytelling เข้ามาผสมผสานกับวิธีการทำงานแบบเดิม ขอบเขตการทำงานของฝ่าย HR ก็จะกว้างขึ้น และสามารถช่วยพัฒนาองค์กรไปได้อีกไกลเลยค่ะ แต่หลาย ๆ ท่านอาจจะยังมองไม่เห็นภาพว่าการนำ Visual Storytelling มาปรับใช้นั้น จะทำให้องค์กรพัฒนาไปในทิศทางไหน และพัฒนาไปอย่างไรใช่ไหมคะ
ในวันนี้ Globish จึงมี 4 เคล็ดลับของตัวอย่างที่จะทำให้ทุกท่านเข้าใจ และมองเห็นภาพรวมของการนำ Visual Storytelling มาใช้ได้ชัดขึ้นค่ะ
ในหลาย ๆ บริษัท มักมีการใช้แบบทดสอบต่าง ๆ กับผู้สมัคร โดยวัตถุประสงค์คือ การประเมินความสามารถ และความเป็นมืออาชีพใช่ไหมคะ แต่การทดสอบเชิงตัวเลขอย่างเดียวคงไม่พอค่ะ เพราะหากอยากได้คนที่โดนใจให้องค์กร ให้ลองนำการทดสอบแบบ SHL หรือแบบประเมินบุคลิกภาพมาใช้ร่วมด้วยก็จะยิ่งดีเลยค่ะ
โดยเทคนิค SHL จะเป็นการนำคำถามหรือแบบทดสอบต่าง ๆ ได้แก่ การทดสอบเชิงตรรกะ การทดสอบเชิงตัวเลข และการทดสอบด้วยวาจา มาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบภาพ และวิดีโอที่เป็นการนำ Visual Storytelling เข้ามาผสมผสานเพื่อเฟ้นหาผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับองค์กร โดยวัดจากสิ่งซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทาง และการพูด เช่น การทดสอบด้านมนุษยธรรมเป็นต้นค่ะ
ซึ่งคุณสามารถดูตัวอย่างโปรแกรม SHL ได้ที่นี่ https://www.shl.com/en/solutions/virtual/smart-video-interview-live/?redirect_source=aspiringminds.com
แน่อนว่าความรับผิดชอบของ HR ไม่ได้มีเพียงแค่หาพนักงานใหม่ ๆ หรือจัดการงานเอกสาร แต่หน้าที่อีกอย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การสร้างเอกสาร รูป วิดีโอ หรือแม้แต่สไลด์พรีเซนเทชัน เพื่อนำไปโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Slideshare ใช่ไหมคะ
ซึ่งสิ่งนี้เป็นอีกส่วนที่สามารถนำ Visual Storytelling เข้ามาช่วยบอกเล่าเรื่องราว และจุดยืนขององค์กรได้ค่ะ โดยการใช้วิธีนี้เปรียบเหมือนการโฆษณา เพื่อให้คนภายนอกมองเห็นภาพลักษณ์ของสินค้าหรือตัวบริษัทนั่นเอง และผลพลอยได้จากการใช้วิธีนี้คือ ช่วยดึงดูดคนที่มีทัศนคติตรงกับองค์กรเข้ามาทำงานร่วมกันนั่นเอง
ในยุคสมัยนี้พนักงานไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานในออฟฟิศเท่านั้น แต่ยังสามารถทำงานทางไกลได้ หรือ บางคนอาจจะอยู่คนละไทม์โซน คนละประเทศกัน ดังนั้นสิ่งที่ทุกองค์กรจะต้องทำให้ได้ คือ การสื่อสารระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าถึงแม้จะไม่ได้นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ หรือประเทศเดียวกัน แต่เมื่อเป็นบุคลากรในบริษัทเดียวกัน การเห็นทิศทางและจุดยืนของบริษัทไปในทางเดียวกัน ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ค่ะ ซึ่งสิ่งนี้ก็สามารถนำ Visual Storytelling มาปรับใช้ได้เช่นกันนะคะ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง HSBC ที่ได้นำ Visual Storytelling เข้ามาช่วยเล่าเรื่องที่เข้าใจยากและซับซ้อน อย่างข้อมูลทางสถิติ ที่ไม่ว่าพนักงานของบริษัทจะอยู่ที่ไหนในโลก ก็สามารถเข้าใจสารที่องค์กรพยายามจะสื่อนั่นเองค่ะ
แน่นอนว่าในทุกบริษัท ทางฝ่าย HR จะต้องมีการประเมินพนักงานเป็นรายคน และบางบริษัทอาจตอบแทนพนักงานดีเด่นด้วยถ้วยรางวัล หรือสวัสดิการพิเศษต่าง ๆ แต่ขณะเดียวกันในหลาย ๆ บริษัทกลับพยายามคิดค้นหาวิธีการประเมินพนักงานให้ไม่น่าเบื่อ และสนุกสนานเหมือนกำลังเล่นเกม โดยการนำ Visual Storytelling มาปรับใช้ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น G Suite ที่ได้มีการนำแอปพลิเคชัน XOXODAY ที่สร้างขึ้นด้วยการใช้ Visual Storytelling มาปรับเปลี่ยนให้น่าสนใจ ซึ่งตัวแอปมีหน้าที่เหมือน HR ย่อส่วน ที่มาพร้อมกับหลากหลายฟังก์ชัน เช่น การสร้างแบบสอบถาม การเก็บแต้มคะแนนเพื่อนำไปแลกรับบัตรกำนัลต่าง ๆ รวมถึงบอร์ดคะแนนแบบ Real - time เพื่อวัดความสามารถของพนักงานทุก ๆ คน และด้วยหน้าตาแอปที่มีรูปภาพสีสันสดใส บวกกับการใช้งานที่แสนง่าย ทำให้แอปนี้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก
ซึ่งคุณสามารถดูตัวอย่างแอปพลิเคชัน XOXODAY ได้ที่นี่ https://www.xoxoday.com
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 4 เคล็ดลับของตัวอย่างที่ช่วยทุกท่านเข้าใจ และมองเห็นภาพรวมของการนำ Visual Storytelling มาปรับใช้ในการพัฒนาองค์กร และต่อไปนี้ เมื่อได้ยินคำว่า Visual Storytelling ทุกท่านอาจจะไม่นึกถึงเพียงแค่การทำการตลาดอีกต่อไป เพราะนี่คือสิ่งที่จะช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมไปถึงภาพรวมองค์กรให้มีแข็งแกร่งขึ้นผ่านการสร้างสรรค์เรื่องราวด้วยรูปภาพ และวิดีโอนั่นเองค่ะ
สุดท้ายนี้หากท่านไหนสนใจคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ที่มีความตั้งใจอยากให้คนไทยพูดภาษาอังกฤษได้ ด้วยการออกแบบหลักสูตรมาสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ผ่านการเรียนแบบออนไลน์ตัวต่อตัว จากบทเรียนหลากหลายรูปแบบที่มาผสมผสานกัน พร้อมด้วยโค้ชชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศทั่วโลก สามารถดูรายละเอียด และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3xKvb7D